1. ภูมิปัญญาด้านเกษตรกรรม |
|
การทำนาหว่านน้ำตม |
|
การทำนาในประเทศไทยนั้นมี
2 วิธีใหญ่ๆ
คือนาดำกับนาหว่าน
นาหว่านยังสามารถแบ่งออกได้หลายรูปแบบ
เช่น หว่านสำรวย
หรือหว่านแห้ง หว่านน้ำตม
หรือการหว่านข้าวงอก
การหว่านน้ำตมหรือการหว่านข้าวงอกของชาวปราจีนบุรีเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจากจังหวัดอื่นๆ
ที่เรียกว่าการหว่านน้ำตมเพราะตอนไถคราด
น้ำจะขุ่นเป็นตม
แต่เมื่อทิ้งไว้ น้ำก็จะใส
การทำนาหว่านน้ำตมของชาวปราจีนบุรีต้องอาศัยน้ำฝนแต่เพียงอย่างเดียวจึงต้องรอให้ฝนตก
ให้น้ำขังในนาก่อน
จึงทำการไถและทำเทือก
ชาวนาจะหว่านข้าวงอกทันทีเมื่อทำเทือกเสร็จ
แล้วทิ้งให้ตกตะกอน
เมล็ดข้าวซึ่งหนักกว่าตะกอนจะตกถึงผิวดินก่อน
ส่วนตะกอนก็จะตกลงไปทับเมล็ดข้าวอีกที่หนึ่ง
ทำให้น้ำไม่สามารถพัดพาเมล็ดข้าวงอกลอยไปที่อื่นได้
ข้าวที่หว่านน้ำตมนั้นจะต้องแช่น้ำ
1 คืน
รุ่งเช้าต้องนำขึ้นจากน้ำ
ให้สะเด็ดน้ำ
แล้วนำไปใส่ในกระบุงที่กรุด้วยใบตอง
ที่กรุด้วยใบตองเพราะป้องกันไม่ให้รากข้าวชอนไชเข้าไปในกระบุง หลังจากนั้นจึงปิดกระบุงด้วยใบตอง
รดน้ำเช้าเย็น
ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 คืน
ให้ข้าวงอก
แล้วจึงนำข้าวงอกไปหว่านในน้ำตมการหว่านนาน้ำตมวิธีนี้เป็นรูปแบบเฉพาะถิ่นในเขตพื้นที่นาที่เป็นดินเปรี้ยวเท่านั้น
โดยเฉพาะอำเภอบ้านสร้าง
อำเภอเมืองปราจีนบุรี
อำเภอศรีมโหสถ
และอำเภอศรีมหาโพธิบางส่วน
เพราะถ้าดินไม่เปรี้ยว
ถึงแม้ จะปล่อยให้ตกตะกอนน้ำก็ยังคงขุ่นอยู่ ข้าวก็จะเน่า แต่สำหรับในพื้นที่นาดินเปรี้ยวเมื่อปล่อยให้ตกตะกอนเพียง คืนเดียว น้ำก็จะใสแสงแดดสามารถส่องลงไปถึงพื้นดินได้ แม้ในระดับความลึกถึง 50 ซม. ข้าวก็สามารถงอกได้ ข้าวนาน้ำตมให้ผลผลิตมากกว่านาหว่านธรรมดา แต่ก็น้อยกว่านาดำ |
|
ผักกระเฉดชะลูดน้ำ |
|
มีปลูกตลอดปี
ในพื้นที่ 50 ไร่ ที่หมู่ที่
10,15 ตำบลเมืองเก่า
อำเภอกบินทร์บุรี
เริ่มปลูกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526
เป็นผักกระเฉดที่มีลักษณะปล้องยาว
ชะลูด ไม่มีนม (ปุยขาวที่หุ้มปล้องผักกระเฉด)
กรอบ
สามารถใช้รับประทานสดๆ
แกล้มกับอาหารรสจัด
หรือใช้จิ้มน้ำพริก
และยังสามารถนำมายำ ผัด
หรือ
แกงส้มได้อร่อยเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย
การปลูกผักกระเฉดชะลูดน้ำนี้
เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้าน
เนื่องจากพื้นที่
ดังกล่าวเป็นที่ลุ่ม
ในฤดูฝน
น้ำจะหลากและท่วมเป็นประจำทุกปี
เกษตรกรสังเกตเห็นว่าน้ำที่หลากมาท่วมผักกระเฉดจนมิดยอด
ผักกระเฉดจะงอกหนีน้ำอย่างรวดเร็ว
ทำให้ยอดที่เจริญขึ้นมาใหม่เป็นยอดอ่อนที่ยาว
ไม่อวบ นิ่ม และไม่มีนม
จึงเป็นยอดอ่อนที่สะอาด
น่ารับประทาน
เกษตรกรจึงใช้วิธีนี้มาทำผักกระเฉดชะลูดน้ำ
โดยตัดยอดจากแปลงใน ทุ่งนา มาผูกกับหลักให้จมน้ำจนมิดยอด โดยอาศัยแควหนุมานที่มีน้ำใส ไหลตลอดปีเป็นสถานที่ดำเนินการ |
|
|
|
เครื่องตำข้าวซ้อมมือ |
|
เครื่องตำข้าวซ้อมมือ
และข้าวกล้อง
เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านอำเภอบ้านสร้าง
คือ นายฉอ้อน |
|
เครื่องฝัดข้าว |
|
เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่นายฉอ้อน ทรงเดช คิดประดิษฐ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 โดยใช้เพลาท่อเก่าๆ ทำเป็นแกนส่งออกให้ห่างตัวเครื่อง แล้วต่อพัดลมเป่าแกลบให้ฝัดข้าวได้ตามต้องการ ทำให้งานตำข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น |
.........................................................................................................
สารสนเทศจังหวัดที่ตั้งสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติมหาวิทยาลัยรามคำแหง
| เกี่ยวกับโครงการ
| ผู้ร่วมสนับสนุน
| สารสนเทศฯสาขาวิทยบริการฯ
| สารสนเทศจังหวัดปราจีนบุรี
| มหาวิทยาลัยรามคำแหง
|
สารบัญหลัก|
ประวัติ
แผนที่ | สภาพทั่วไป
| สภาพทางสังคม | สภาพทางเศรษฐกิจ
| การท่องเที่ยว | ศิลปวัฒนธรรม
|
| โครงการพัฒนาส่วนพระองค์
| โครงการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวป่า
| บุคคลดีเด่น | เอกสารอ่านเพิ่มเติม
| เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
| ค้นหา( ดรรชนีคำ) |