ชีวิตในรั้วรามฯ ของนักร้องสาวเงาเสียงพุ่มพวง“เปาวลี พรพิมล”
             หลังจากภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง ลงโรงฉายไปเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ชื่อของ ‘เปาวลี พรพิมล’ ก็ถูกเอ่ยถึงอย่างมากในฐานะเงาเสียงของ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’และ
‘สาวสุพรรณเสียงดี’
แม้ว่าตอนนี้เธอจะก้าวสู่วงการเพลงลูกทุ่งอย่างเต็มตัวแล้ว แต่เรื่องการเรียนเธอไม่เคยทิ้งและยังมุ่งมั่นตั้งใจเรียนสาขาที่เธอสนใจในคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง
           เปา-เปาวลี พรพิมล นักร้องลูกทุ่ง วัย 20 ปี บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปัจจุบันกำลังศึกษาคณะสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นนักร้องในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายแกรมมี่โกลด์ เข้าสู่วงการโดยการประกวดร้องเพลงในรายการ คว้าไมค์ คว้าแชมป์ ครั้งที่ 1 ทางช่องแฟนทีวี ได้รับรางวัล แชมป์ ออฟ เดอะ เยียร์ ปี2553 และต่อมาด้วยน้ำเสียงเหน่อๆ ตามแบบฉบับชาวสุพรรณบุรี และบุคลิกตัวเล็ก หน้าหวาน เสียงใสคล้าย ‘แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์’ เธอได้รับการคัดเลือกจากสหมงคลฟิล์ม ให้แสดงภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวง โดยรับบทนำเป็น‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ ราชินีเพลงลูกทุ่ง เปาวลี เล่าถึงการเรียนของเธอว่า หลังจากที่เรียนจบชั้น ม.ปลายจาก โรงเรียนบรรหารแจ่มใส 3 จังหวัดสุพรรณบุรี เธอสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงที่เรียนจบ ชั้น ม.6 หมาดๆและกำลังถ่ายภาพยนตร์เรื่อง‘พุ่มพวง’ไปด้วย เธอตัดสินใจเลือกเรียนที่รามคำแหง เพราะว่าต้องทำงานทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามานั่งเรียนในห้องเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่น จึงมองหามหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด และเธอก็เข้าศึกษาที่รามคำแหงซึ่งเป็นสถาบันที่เปิดโอกาสทางการศึกษา ไม่จำกัดการเข้าเรียน ทำให้คนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้มีโอกาสเรียนหนังสือไปพร้อมกัน
                 “เปาชอบเรียนด้านสื่อสารมวลชน เพราะเป็นการเรียนที่ไม่ได้ที่มีแต่เบื้องหน้า ยังมีการทำงานเบื้องหลังที่น่าสนใจ และน่าสนุก พอทำงานแล้วได้เห็นจุดนี้ก็อยากเข้ามาศึกษาด้วยตัวเองบ้าง ส่วนตัวเปาเองไม่ค่อยได้มาเข้าเรียน ทุกครั้งที่มีเวลาว่างจะหาข้อมูลและอ่านตำราจากทางอินเทอร์เน็ต เมื่อถึงเวลาลงทะเบียนเพื่อนๆในกลุ่มที่รามฯก็จะช่วยแนะนำเรื่องการลงทะเบียน เมื่อถึงเวลาสอบก็จะอ่านหนังสือและอ่านโน้ตย่อที่เพื่อนๆนำมาให้ ซึ่งบางครั้งก็ทำงานเลิกดึก จึงคิดว่าการแบ่งเวลาเป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ได้ จะไม่ทิ้งเรื่องการเรียนและจะตั้งใจเรียนอย่างต่อเนื่องให้จบจากรามคำแหงให้ได้คะ”
                 นักร้องสาวสุพรรณ เล่าด้วยว่า หลังจากที่แสดงภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง และก้าวมาเป็นนักร้องลูกทุ่งในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อย่างเต็มตัวแล้ว ถ้าถามว่าชีวิตเปลี่ยนหรือไม่??? เปายังใช้ชีวิตปกติเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งการที่เข้ามาอยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน ทำให้มีโอกาสได้รู้จักคนมากขึ้น และเห็นชีวิตการทำงานที่แท้จริง ซึ่งที่จริงแล้วการทำงานของเปา เหมือนเป็นการฝึกงานในวัยเรียน คือ ได้มีความรู้ทฤษฎีด้านสื่อสารมวลชน ประกอบกับได้เห็นเบื้องหลังการทำงาน ยิ่งทำให้เราเข้าใจในวิชาเรียนและการทำงานที่ควบคู่กันมากขึ้น
"ในอนาคตเปาวางแผนไว้หลายอย่าง เพราะนอกจากการร้องเพลงลูกทุ่งแล้ว เปาชอบการทำงานเบื้องหลัง เช่น เบื้องหลังการจัดรายการ หรือการทำเพลง ในใจแล้วคิดไว้เยอะ!!!
แต่ตอนนี้จะตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดก่อน ทั้งงานเพลงและงานละครที่กำลังจะฉายในเร็วๆนี้…
          ...การใช้ชีวิตทุกวันนี้ เปา นึกถึงคำพูดของคนแม่เสมอว่า “โอกาสที่ดีไม่ได้มีมาง่ายๆ ในเมื่อเราได้รับโอกาสให้ทำงาน ควรทำทุกอย่างให้เต็มที่” ดังนั้น เปาขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ที่รามคำแหง และอีกหลายคนที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเหมือนเปา แม้ว่าบางครั้งอาจจะคิดว่า ชีวิตต้องทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน ขอให้เพื่อนๆสนุกกับการทำงานและการเรียน รวมถึง ความอดทนและความมุ่งมั่นในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุดคะ "
นักศึกษารามฯคนเก่งกล่าวในที่สุด